Home Icon

HOME

LIFESTYLE

REVIEW

DECORATION

LAW

NEWS & EVENTS

NEWS

USER GUIDE

GUIDE

หาที่พักที่ RentHub

ทำความรู้จักกับ Upfront Fee คืออะไร และมีแบบไหนบ้าง ?

BY
Natni P.
โพสต์เมื่อ
14 November 2023
ทำความรู้จักกับ Upfront Fee คืออะไร และมีแบบไหนบ้าง ?

Upfront Fee คือ ค่าธรรมเนียมที่ลูกค้าต้องจ่ายล่วงหน้าให้กับผู้ให้บริการ ซึ่งเงินจำนวนนี้จะเป็นการจ่ายเต็มจำนวนหรือจ่ายแค่บางส่วนก็ขึ้นอยู่กับข้อตกลง และโดยทั่วไปแล้ว Upfront Fee จะถูกกำหนดให้เป็นเปอร์เซ็นต์ เช่น หากสินค้ามีมูลค่า 100,000 บาท Upfront Fee อาจกำหนดไว้ที่ 10% หรือ 10,000 บาท เป็นต้น

 

ทั้งนี้ Upfront Fee มีจุดประสงค์หลัก ๆ คือ เป็นหลักประกันว่าลูกค้าจะปฏิบัติตามสัญญาหรือเงื่อนไข โดยไม่ขอยกเลิกกลางคัน เช่น ในกรณีที่ลูกค้าเช่าพื้นที่สำนักงาน ลูกค้าจะต้องจ่าย Upfront Fee เป็นเงินประกันค่าเช่าล่วงหน้า หรือในกรณีที่ลูกค้าต้องการเช่ารถ ลูกค้าจะต้องจ่าย Upfront Fee เป็นเงินประกันค่าเช่ารถล่วงหน้า เป็นต้น หรือหากจะให้สรุปแบบง่าย ๆ เลยก็คือ Upfront Fee คือ ค่าธรรมเนียมล่วงหน้า ซึ่งเป็นเงินที่ต้องชำระล่วงหน้าก่อนที่จะมีการให้บริการหรือส่งมอบสินค้านั่นเอง

 

รูปแบบค่า Upfront Fee มีแบบไหนบ้าง ?

โดยรูปแบบค่า Upfront Fee จะถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ดังนี้

  1. ค่าธรรมเนียมที่ขอคืนได้ (Refundable Upfront Fee) เป็นค่าธรรมเนียมที่ลูกค้าสามารถขอคืนได้ในกรณีที่ไม่ใช้บริการหรือยกเลิกสัญญา โดยผู้ให้บริการมักกำหนดเงื่อนไขในการขอคืนค่าธรรมเนียม เช่น ลูกค้าจะต้องแจ้งยกเลิกสัญญาก่อนถึงระยะเวลาให้บริการที่กำหนด เป็นต้น
  2. ค่าธรรมเนียมที่ขอคืนไม่ได้ (Non-refundable Upfront Fee) เป็นค่าธรรมเนียมที่ลูกค้าไม่สามารถขอคืนได้ ไม่ว่าจะด้วยกรณีใดก็ตาม ซึ่งผู้ให้บริการมักจะกำหนดค่าธรรมเนียมประเภทนี้สำหรับบริการที่มีระยะเวลาสัญญายาวนานหรือบริการที่มีมูลค่าสูง

 

นอกจากนี้ รูปแบบค่า Upfront Fee ยังสามารถแบ่งออกเป็นประเภทย่อย ๆ ตามวัตถุประสงค์ของการกำหนดค่าธรรมเนียมได้อีกด้วย

  • ค่าธรรมเนียมประกัน (Security Fee) เป็นค่าธรรมเนียมที่ใช้เป็นเงินประกันหรือเงินมัดจำเพื่อเป็นหลักประกันว่าลูกค้าจะปฏิบัติตามสัญญาหรือเงื่อนไขการให้บริการ เช่น ค่าธรรมเนียมการเช่าพื้นที่สำนักงาน ค่าธรรมเนียมการเช่ารถ ค่าธรรมเนียมการเช่าอยู่อาศัยภายในหอพัก เป็นต้น
  • ค่าธรรมเนียมแรกเข้า (Sign-up Fee) เป็นค่าธรรมเนียมที่ผู้ให้บริการเรียกเก็บจากลูกค้าในการสมัครใช้บริการ เช่น ค่าธรรมเนียมการสมัครสมาชิกเว็บไซต์ ค่าธรรมเนียมการสมัครสมาชิกแพลตฟอร์มออนไลน์ เป็นต้น
  • ค่าธรรมเนียมการบริการ (Service Fee) เป็นค่าธรรมเนียมที่ผู้ให้บริการเรียกเก็บจากลูกค้าสำหรับการให้บริการ เช่น ค่าธรรมเนียมการใช้บริการอินเทอร์เน็ต ค่าธรรมเนียมการใช้บริการโทรศัพท์ เป็นต้น
  • ค่าธรรมเนียมการยกเลิกสัญญา (Early Termination Fee) เป็นค่าธรรมเนียมที่ผู้ให้บริการเรียกเก็บจากลูกค้า ในกรณีที่ลูกค้ายกเลิกสัญญาก่อนถึงระยะเวลาให้บริการที่กำหนด เช่น ค่าธรรมเนียมการยกเลิกสัญญาเช่าพื้นที่สำนักงาน ค่าธรรมเนียมการยกเลิกสัญญาเช่ารถ เป็นต้น

 

ตัวอย่างรูปแบบค่า Upfront Fee

  • ค่าธรรมเนียมการเช่าพื้นที่สำนักงาน : ค่าธรรมเนียมการเช่าพื้นที่สำนักงานมักจะกำหนดให้เป็นค่าธรรมเนียมประกัน (Security Fee) โดยกำหนดให้ลูกค้าจ่าย Upfront Fee เป็นเงินประกันค่าเช่าล่วงหน้าประมาณ 2 เดือนถึง 6 เดือน
  • ค่าธรรมเนียมการเช่ารถ : ค่าธรรมเนียมการเช่ารถมักจะกำหนดให้เป็นค่าธรรมเนียมแรกเข้า (Sign-up Fee) โดยกำหนดให้ลูกค้าจ่าย Upfront Fee เป็นค่าธรรมเนียมแรกเข้าประมาณ 1,000 บาท ถึง 5,000 บาท
  • ค่าธรรมเนียมการใช้บริการติดตั้งระบบคอมพิวเตอร์ : ค่าธรรมเนียมการใช้บริการติดตั้งระบบคอมพิวเตอร์มักจะกำหนดให้เป็นค่าธรรมเนียมการบริการ (Service Fee) โดยกำหนดให้ลูกค้าจ่าย Upfront Fee เป็นค่าธรรมเนียมการบริการประมาณ 20% ถึง 30% ของมูลค่ารวมของงาน
  • ค่าธรรมเนียมการสมัครสมาชิกเว็บไซต์ : ค่าธรรมเนียมการสมัครสมาชิกเว็บไซต์มักจะกำหนดให้เป็นค่าธรรมเนียมแรกเข้า (Sign-up Fee) โดยกำหนดให้ลูกค้าจ่าย Upfront Fee เป็นค่าธรรมเนียมแรกเข้าประมาณ 100 บาท ถึง 500 บาท
  • ค่าธรรมเนียมการสมัครสมาชิกแพลตฟอร์มออนไลน์ : โดยทั่วไปแล้ว ค่าธรรมเนียมการสมัครสมาชิกแพลตฟอร์มออนไลน์มักจะกำหนดให้เป็นค่าธรรมเนียมรายเดือน (Monthly Fee) โดยกำหนดให้ลูกค้าจ่าย Upfront Fee เป็นค่าธรรมเนียมรายเดือนล่วงหน้าประมาณ 1 ถึง 3 เดือน

 

ข้อดีและข้อเสียของค่า Upfront Fee

ข้อดีของ Upfront Fee

ข้อดีของค่า Upfront Fee นั้น จะช่วยให้ผู้ให้บริการได้รับเงินก้อนโตในทันที ซึ่งสามารถนำไปลงทุนหรือหมุนเวียนในกิจการได้ เช่น ในกรณีที่ผู้ให้บริการให้บริการเช่าพื้นที่สำนักงาน ผู้ให้บริการจะต้องลงทุนในการเช่าพื้นที่สำนักงาน ติดตั้งอุปกรณ์ และตกแต่งสถานที่ เป็นต้น ซึ่งการมี Upfront Fee จะช่วยให้ผู้ให้บริการมีเงินทุนเพียงพอที่จะดำเนินการให้บริการได้อย่างราบรื่น

นอกจากนี้ Upfront Fee ยังสามารถใช้เป็นหลักประกันว่าลูกค้าจะปฏิบัติตามสัญญาหรือเงื่อนไขการให้บริการ เช่น ในกรณีที่ลูกค้าเช่าพื้นที่สำนักงาน ลูกค้าจะต้องจ่าย Upfront Fee เป็นเงินประกันค่าเช่าล่วงหน้า และถ้าลูกค้าไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญาเช่าได้ เช่น ผิดนัดชำระค่าเช่า ผู้ให้บริการมีสิทธิที่จะยึดเงินค่าเช่าล่วงหน้าไว้เป็นค่าเสียหาย เป็นต้น

  • ช่วยให้ผู้ให้บริการได้รับเงินก้อนโตในทันที ซึ่งสามารถนำไปลงทุนหรือหมุนเวียนในกิจการได้
  • ช่วยให้ผู้ให้บริการมีหลักประกันว่าลูกค้าจะปฏิบัติตามสัญญาหรือเงื่อนไขการให้บริการ

ข้อเสียของ Upfront Fee

ข้อเสียของค่า Upfront Fee นั้นก็คือ ลูกค้าต้องจ่ายเงินก้อนโตล่วงหน้า ซึ่งอาจทำให้ลูกค้าขาดสภาพคล่องทางการเงินได้ เช่น ในกรณีที่ลูกค้าเช่าพื้นที่สำนักงาน ลูกค้าจะต้องจ่าย Upfront Fee เป็นเงินประกันค่าเช่าล่วงหน้า 6 เดือน ซึ่งอาจจะทำให้ลูกค้าต้องมีเงินก้อนโต และนั่นอาจจะทำให้ลูกค้าขาดสภาพคล่องทางการเงินหรือเปลี่ยนใจไม่ต้องการเช่าพื้นที่เอาได้

นอกจากนี้ ในกรณีที่ผู้ให้บริการไม่ปฏิบัติตามสัญญาหรือเงื่อนไขการให้บริการ ลูกค้าอาจไม่สามารถเรียกคืน Upfront Fee ได้ทั้งหมด เช่น ในกรณีที่ลูกค้าเช่ารถ ลูกค้าจะต้องจ่าย Upfront Fee เป็นเงินประกันค่าเช่าล่วงหน้า 3 เดือน และถ้าลูกค้ายกเลิกสัญญาเช่ารถก่อนกำหนด ลูกค้าอาจไม่สามารถเรียกคืนเงินค่าเช่าล่วงหน้าได้ เนื่องจากผู้ให้บริการอาจเรียกเก็บค่าเสียหายเป็นค่าดำเนินการในการดำเนินการให้บริการ เป็นต้น

  • ลูกค้าต้องจ่ายเงินก้อนโตล่วงหน้า ซึ่งอาจจะทำให้ลูกค้าขาดสภาพคล่องทางการเงินได้
  • ในกรณีที่ผู้ให้บริการไม่ปฏิบัติตามสัญญาหรือเงื่อนไขการให้บริการ ลูกค้าอาจไม่สามารถเรียกคืน Upfront Fee ได้ทั้งหมด

 

ทั้งนี้ค่า Upfront Fee จะต้องถูกกำหนดโดยผู้ให้บริการและลูกค้าร่วมกัน โดยจะต้องระบุไว้ในสัญญาการให้บริการอย่างชัดเจนเพื่อความเข้าใจที่ตรงกันทั้ง 2 ฝ่าย และรายละเอียดทั้งหมดที่เราได้กล่าวไปข้างต้น คงพอจะทำให้คุณได้รู้จักกับ “ค่า Upfront Fee” กัน เพิ่มมากยิ่งขึ้น ซึ่งในส่วนของหอพักอพาร์ทเม้นท์ก็มักจะมีค่า Upfront Fee เช่นเดียวกัน โดยจะเป็นเงินประกันค่าเช่าล่วงหน้า เช่น ให้ผู้เช่าจ่ายค่าเช่าล่วงหน้า 3 เดือน 6 เดือน ขึ้นอยู่กับการทำสัญญาเช่าของเจ้าของหอพัก

 

: Renthub เว็บไซต์ค้นหาหอพักอันดับ 1 ของประเทศไทย

RELATED ARTICLES

รู้ไว้ก่อนขอใบอนุญาต! 4 ประเภทของโรงแรมตามกฎหมายควบคุมอาคาร

รู้ไว้ก่อนขอใบอนุญาต! 4 ประเภทของโรงแรมตามกฎหมายควบคุมอาคาร

สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการเปิดบริการที่พักหรือโรงแรมในประเทศไทย การทำความเข้าใจ ประเภทของโรงแรมตามกฎหมาย เป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะมีผลต่อการขอใบอนุญาตและการดำเนินธุรกิจอย่างถูกต้อง โดยในปี พ.ศ. 2566 มีการปรับปรุงเกณฑ์ใหม่ ทำให้บางที่พักไม่เข้าข่ายโรงแรมและไม่ต้องขอใบอนุญาต แต่ต้องแจ้งเป็น “สถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรม” แทน บทความนี้จะแนะนำประเภทที่พักตามกฎหมาย พร้อมแนวทางการขออนุญาตแต่ละประเภทแบบเข้าใจง่าย เพื่อช่วยให้คุณเลือกดำเนินการได้ถูกต้องตั้งแต่เริ่มต้น

โพสต์เมื่อ05 November 2025
มีชาวต่างชาติมาเช่าหอพัก/อพาร์ทเม้นท์ ต้องแจ้ง ตม. 30 ที่ไหน ?

มีชาวต่างชาติมาเช่าหอพัก/อพาร์ทเม้นท์ ต้องแจ้ง ตม. 30 ที่ไหน ?

มีชาวต่างชาติมาเช่าหอพักหรืออพาร์ทเม้นท์ ต้องแจ้ง ตม. 30 (TM30) ให้ถูกต้องตามกฎหมาย! รวมข้อมูลครบ วิธีแจ้ง TM30 ที่ไหน แจ้งอย่างไร พร้อมคำแนะนำเข้าใจง่ายสำหรับเจ้าของที่พัก

โพสต์เมื่อ22 October 2025

POPULAR ARTICLE

"กฎหมายเรียกเก็บค่าน้ำค่าไฟ" ในอพาร์ทเม้นท์ เรื่องสำคัญที่ผู้เช่าต้องรู้!
Renthub Logo

บริษัท ซิมเปิ้ล มีเดีย จํากัด
เลขที่ 242, 244, 246 ชั้น 2 ห้องเลขที่ A210A ถนนวัชรพล แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร 10230
โทร. 02-105-4287

COPYRIGHT © 2024, ZIMPLE MEDIA CO.,LTD, ALL RIGHTS RESERVED.

FOLLOW UP

Facebook
Line
Youtube
Instagram
Instagram
Instagram