เคยรู้สึกไหมว่านอนเท่าไรก็ไม่เคยพอ ? หลายคนอาจคิดว่าแค่เหนื่อย หรือพักผ่อนไม่พอ แต่จริง ๆ แล้ว “การนอนหลับผิดปกติ” อาจเป็นสัญญาณของโรคบางอย่างที่ซ่อนอยู่ และหนึ่งในการตรวจที่ช่วยวินิจฉัยได้ก็คือ Sleep Test หรือการตรวจวิเคราะห์การนอนหลับแบบละเอียด
ข่าวดีคือ...ตอนนี้ Sleep Test สามารถเบิกค่ารักษาจากสิทธิประกันสังคมได้แล้ว!
ซึ่งหลาย ๆ คน อาจจะยังไม่รู้ เพราะเป็นสิทธิที่เพิ่งเริ่มมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2567 ที่ผ่านมา โดยเราต้องขอบอกเลยว่า ค่อนข้างที่จะคุ้มค่าและช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ประกันตนได้เป็นอย่างดี เพราะค่าตรวจปกติหลักหมื่น แต่หากเข้าเกณฑ์และผ่านขั้นตอนที่ถูกต้อง ก็สามารถใช้สิทธินี้ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายได้จริง
Sleep Test คืออะไร ?
Sleep Test หรือชื่อเต็ม ๆ ว่า การตรวจวิเคราะห์การนอนหลับ (Polysomnography) คือการตรวจสุขภาพที่ใช้เครื่องมือพิเศษบันทึกข้อมูลต่าง ๆ ของร่างกายระหว่างที่เรานอนหลับ เพื่อดูว่า “การนอนหลับของเราปกติหรือไม่” โดยการตรวจนี้จะทำในห้องพิเศษของโรงพยาบาล (หรือบางกรณีอาจมีอุปกรณ์ตรวจที่สามารถใช้ที่บ้านได้) และจะบันทึกข้อมูลหลายอย่าง เช่น
- คลื่นสมอง (EEG)
- การหายใจ
- การเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อ
- ระดับออกซิเจนในเลือด
- เสียงกรน
- อัตราการเต้นของหัวใจ
ทั้งหมดนี้จะช่วยให้แพทย์ประเมินได้ว่า เรามีภาวะผิดปกติระหว่างนอนหรือไม่ เช่น ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Obstructive Sleep Apnea) ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตหากปล่อยไว้นาน
อาการแบบไหนควรไปตรวจ Sleep Test ?
ถ้าคุณมีอาการเหล่านี้ซ้ำ ๆ หรือรู้สึกว่าการนอนหลับของตัวเอง “ไม่เคยทำให้สดชื่น” เลย ก็อาจจะถึงเวลาที่ต้องพิจารณาเข้ารับการตรวจ Sleep Test แล้วล่ะ โดยอาการที่ควรรีบไปตรวจ Sleep Test ก็เช่น...
- นอนกรนเสียงดัง จนคนข้าง ๆ สะดุ้งตื่น
- หยุดหายใจเป็นช่วง ๆ ขณะหลับ (โดยเฉพาะหากคนอื่นสังเกตเห็น)
- ง่วงจัดในเวลากลางวัน แม้จะได้นอนครบ 7–8 ชั่วโมง
- ตื่นมาด้วยอาการปวดหัว ปากแห้ง หรือรู้สึกหายใจไม่เต็มปอด
- นอนไม่หลับ หรือตื่นกลางดึกบ่อย ๆ
- รู้สึกเหนื่อย อ่อนเพลียตลอดวัน ไม่มีแรงทำงาน
- มีปัญหาด้านความจำ อารมณ์แปรปรวน หรือสมาธิสั้นผิดปกติ
หากคุณมีมากกว่า 2–3 ข้อขึ้นไป หรือเป็นอาการเรื้อรังที่กระทบกับคุณภาพชีวิต ลองเข้าพบแพทย์เพื่อประเมินเบื้องต้นดูได้เลย เพราะในบางกรณี Sleep Test ไม่ได้แค่ช่วยวินิจฉัยโรค แต่ยังช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงในอนาคต เช่น โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง หรือหลอดเลือดสมองตีบอีกด้วย
ทำ Sleep Test เบิกประกันสังคมได้ไหม ?
สำหรับคำถามที่ว่า...ทำ Sleep Test เบิกประกันสังคมได้ไหม ? คำตอบก็คือ “ได้” แต่จะมีเงื่อนไขดังนี้...
- ต้องเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33, 39, 38 และ 41
- ต้องจ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 เดือน ภายในระยะเวลา 15 เดือนก่อนวันรับบริการทางการแพทย์
- แพทย์ต้องวินิจฉัยว่ามีความจำเป็นต้องตรวจ Sleep Test เพื่อรักษาโรคหรืออาการผิดปกติ เช่น ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (OSA)
- ต้องเข้ารับการรักษาที่สถานพยาบาลที่เป็นโรงพยาบาลในเครือข่ายของประกันสังคม หรือโรงพยาบาลที่ได้รับการยอมรับจากประกันสังคม
-------------------------------
ทั้งนี้ผู้ประกันตนสามารถเบิกค่าตรวจนอนหลับ (Sleep Test) ค่าอุปกรณ์ และอุปกรณ์เสริมได้ โดยมีรายละเอียดดังนี้...
- ค่าตรวจการนอนหลับ (Polysomnography) ชนิดที่ 1 จ่ายในอัตราเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 7,000 บาท
- ค่าตรวจการนอนหลับ (Polysomnography) ชนิดที่ 2 จ่ายในอัตราเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 6,000 บาท (การตรวจวัดเหมือนชนิดที่ 1 เว้นแต่ไม่มีเจ้าหน้าที่เฝ้าติดตามขณะหลับ)
-------------------------------
ส่วนค่าอุปกรณ์เครื่องอัดอากาศขณะหายใจเข้า (Continuous positive Airway Pressure - CPAP) และอุปกรณ์เสริมสำหรับการรักษาในอัตราที่สำนักงานกำหนด มีรายละเอียดดังนี้...
- เครื่องอัดอากาศขณะหายใจเข้า ชุดละ 20,000 บาท
- หน้ากากครอบจมูกหรือปากที่ใช้กับเครื่องอัดอากาศขณะหายใจเข้า ชิ้นละ 4,000 บาท
ค่าอุปกรณ์เสริม แผ่นกรองอากาศ กระดาษและแผ่นกรองอากาศฟองน้ำ ให้รวมอยู่ในค่าบริการทางการแพทย์ของสถานพยาบาลที่สำนักงานกำหนดสิทธิ์ในการรับบริการทางการแพทย์สำหรับผู้ประกันตน
อ่าน รายละเอียดฉบับเต็มจากประกันสังคม เพิ่มเติม คลิก หรือสายด่วนประกันสังคม 1506
ปัญหาเรื่องการนอนหลับไม่ใช่เรื่องเล็ก และไม่ควรถูกมองข้าม เพราะอาจเกี่ยวข้องกับโรคที่ส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาว เช่น ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ หรือโรคหัวใจบางชนิด ซึ่ง Sleep Test ถือเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้แพทย์วินิจฉัยและรักษาได้ตรงจุดมากขึ้น และที่สำคัญคือ ปัจจุบันผู้ประกันตนสามารถ ใช้สิทธิประกันสังคมในการเบิกค่าตรวจ Sleep Test ได้แล้ว (ตามเงื่อนไขที่กำหนด) ทั้งนี้หากคุณมีอาการผิดปกติระหว่างนอน เช่น หายใจสะดุด หยุดหายใจขณะหลับ ง่วงมากผิดปกติในตอนกลางวัน หรือรู้สึกเหนื่อยแม้นอนเต็มที่ ลองปรึกษาแพทย์และสอบถามสิทธิประกันสังคมดูอีกครั้ง เพราะบางครั้งคำตอบของสุขภาพที่ดีขึ้น… อาจเริ่มต้นจาก “การนอน” ที่มีคุณภาพก็ได้นะ
📲 ดาวน์โหลด Renthub App เพื่อให้การค้นหาหอพักเป็นเรื่องง่าย ๆ เพียงแค่ปลายนิ้ว (รองรับทั้งระบบ IOS และ Android)